ไปญี่ปุ่นเพื่อ “ฝึก” บูจินกัน

img_0078“บูจินกันเป็นศิลปะต่อสู้โบราณของญี่ปุ่น หากเป็นไปได้ผู้ฝึกควรจะเดินทางไปฝึกที่ญี่ปุ่น” นี่เป็นคำพูดที่อาจารย์และผู้ฝึกระดับสูงหลายๆท่านมักจะกล่าวอยู่เป็นประจำ ข้อดีของการไปฝึกที่ญี่ปุ่นมีหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้ฝึกกับอาจารย์มะซะอะกิโดยตรง ได้รู้จักต้นกำเนิดของวิชา ได้รู้ว่าเขาฝึกกันอย่างไร ได้ “เทน้ำออกจากแก้ว” เพื่อที่จะรับความรู้และทักษะใหม่ๆ และยังมีข้อดีอื่นๆอีกมากมาย

ไปญี่ปุ่นทำไม

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมได้อ่านบทความของผู้ฝึกระดับสูงท่านหนึ่ง ท่านรู้สึกว่าอาจมีผู้ฝึกหลายๆคน ที่ไม่ได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อทำการฝึกเป็นหลัก แต่เดินทางไปเพื่อเลื่อนสาย หรือแนะนำตัวเองให้ผู้ฝึกระดับสูงหลายๆ ท่านได้รู้จัก ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่เสีหายอะไร แต่ผมคิดว่าการเลื่อนสายและการทำความรู้จักไม่ควรจะเป็นจุดประสงค์หลักที่เราเดินทางไปญี่ปุ่น

ประสบการณ์ตรงจากการไปฝึกบูจินกันที่ญี่ปุ่น

ในการเดินทางไปฝึกที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (ปี 2559) ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนทุกครั้งที่จะได้เดินทางไปฝึกกับอาจารย์มะซะอะกิซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของบูจินกัน และจะได้ฝึกกับอาจาย์ชิระอิชิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาจารย์ผมอีกทีหนึ่ง ผมคิดว่าอาจจะดีหากอาจารย์มะซะอะกิ เลื่อนสายให้ผมในการเดินทางของผมในครั้งนี้ แต่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก

เหตุไม่คาดคิด

แต่แล้วก็เกิดเหตุที่ผมไม่คาดคิดขึ้น อาจารย์มะซะอะกิเกิดป่วยกะทันหัน ทำให้ท่านไม่สามารถสอนได้ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น

การเลื่อนสายในบูจินกัน

… การตัดสินการเลื่อนสายของบูจินกันตั้งแต่ระดับห้าขึ้นไปตามปรกติแล้วจะต้องพิจารณาโดย อ.มะซะอะกิ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่เป็นผู้พิจารณา …

การเลื่อนสายของบูจินกันตั้งแต่ระดับห้าขึ้นไป จะต้องให้อ.มะซะอะกิ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้พิจารณาเท่านั้น สำหรับผมแล้ว นับว่าโชคไม่ดี หากอาจารย์ไม่ได้เห็นผมฝึก ท่านอาจจะไม่รู้ว่าผมสมควรได้รับการเลื่อนสายหรือไม่ นับเป็นการเสียโอกาสอย่างยิ่ง

แต่สำหรับผมแล้ว นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผมคิดว่าหากเรายังฝึกอยู่เรื่อยๆ หากไม่ได้สายวันนี้ ก็ค่อยไปรับสายวันหน้า สายไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญคือเราคู่ควรกับสายแล้วหรือไม่ ฝีมือเป็นอย่างไร ความรู้เพียงพอหรือไม่ ความประพฤติเหมาะสมหรือไม่ การได้สายมาก่อนเวลาที่เหมาะสมจะให้เราทำตัวลำบากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคนที่สายต่ำกว่าเรามีฝีมือที่ดีกว่าเรา การฝึกศิลปะต่อสู้เป็นสิ่งละเอียดอ่อน ค่อยๆ ฝึกกันไป เมื่อถึงเวลาอาจารย์จะพิจารณาสายให้เราเอง

ทำความรู้จักคนอื่น

ผมคิดว่าการมีเพื่อนร่วมฝึกที่ดีเป็นสิ่งที่ดี เพื่อนที่ดีจะเป็นอุเกะที่ดีสำหรับเรา เป็นแรงบันดาลใจให้เรา คอยตักเตือนเมื่อเราเริ่มเดินผิดทาง และเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆให้กับเรา เมื่อเราไปที่ญี่ปุ่นเราจะไม่ค่อยมีคนรู้จัก หากเรามีเพื่อนที่ฝึกอยู่ที่ญี่ปุ่น เราอาจชวนเขาฝึกคู่กัน จะทำให้การฝึกนั้นสนุกยิ่งขึ้น

แต่การทำความรู้จักกับผู้ฝึกหรืออาจารย์ที่ญี่ปุ่น ก็ไม่ควรจะเป็นจุดประสงค์หลักของการไปฝึกของเรา ผมเองไม่ได้มีปัญหากับการพูดกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เมื่อเดินทางไปคนเดียว ผมมักจะเดินไปทำความรู้จักกับผู้อื่น เพื่อจะได้ฝึกด้วยกันในการฝึกวันนั้น แต่ด้วยความเกรงใจ ผมจะไม่เข้าไปแนะนำตัวเองกับอาจารย์ โดยเฉพาะอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ผมคิดว่าน่าจะให้คนรู้จักของอาจารย์เป็นผู้ที่แนะนำตัวผมให้อาจารย์รู้จักจะดีกว่า

ไปญี่ปุ่นเพื่อฝึก

เรามักได้ยินคนพูดว่า เดินทางไป “ฝึก” ที่ญี่ปุ่น เราไม่ค่อยได้ยินคนบอกว่าจะเดินทางไปเลื่อนสายที่ญี่ปุ่น หรือเดินทางไปทำความรู้จักกับผู้ฝึกระดับสูงที่ญี่ปุ่น ดังนั้นจุดประสงค์หลักคือ “ฝึก” การเลื่อนสายและการได้รู้จักคนเพิ่ม ถือเป็นจุดประสงค์รอง ผมคิดว่าเราควรจะเตือนตัวเองไว้เสมอ อย่าจุดประสงค์รองกลายเป็นจุดประสงค์หลัก มิฉะนั้นผมอาจจะต้องผิดหวังที่ไม่ได้เลื่อนสาย จนไม่เป็นอันฝึก ผมจะบอกตัวเองเสมอว่า เดินทางไปฝึก ตั้งใจฝึก และฝึกให้สนุก จากนั้นสิ่งต่างๆ ที่เป็นจุดประสงค์รองจะตามมาเอง